วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลรักษาเบาะรถยนต์

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลรักษาเบาะรถยนต์
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนค่ะว่า เบาะรถยนต์มีอยู่ 3ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียต่างกันดังนี้ค่ะ
1.เบาะหนังแท้ คือเบาะที่ทำมาจากหนังสัตว์ ผิวเป็นรูพรุนตามธรรมชาติคล้ายกับหนังคน เวลาเอานิ้วกดลงไป เมื่อปล่อยมือ ต้องใช้เวลาในการคืนสภาพ
ข้อดี
-ไม่อมความร้อน
-มีผิวสัมผัสที่รู้สึกดีกว่าวัสดุชนิดอื่น ให้ความนุ่มกว่าหนังเทียม
-ดูหรูหรา
-มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมสูง หากมีการดูแลอย่าถูกวิธี
-เนื่องจากหนังแท้มีรูพรุนโดยธรรมชาติจึงมีการระบายอากาศได้เป็นอย่างดี จึงไม่ร้อน
ข้อเสีย
-การดูแลรักษายาก
-การเก็บความชื้นได้ดี จึงต้องระวังไม่ให้เปียกชื้นมากเกินไป จะเกิดเชื้อราและกลิ่นอับได้
และอาจทำให้เกิดคราบสกปรกบนเบาะ
2.หนังเทียม จะ มีความแข็งกว่าหนังแท้ ถ้าจะนุ่มก็ไม่ได้นุ่มมาจากตัวของมันเอง แต่นุ่มเพราะวัสดุที่ใช้บุ เวลาเอานิ้วกดลงไป จะไม่ค่อยปรากฎ รอยเหี่ยวย่นให้เห็น
ข้อดี
-การรักษาง่าย
-ไม่เก็บความชื้น
-มีผิวสัมผัวที่สบายไม่อบ
ข้อเสีย
-อมความร้อนได้ดี
-ไม่ทนทาน
3.เบาะกำมะหยี่,เบาะผ้า
ข้อดี
-ไม่อมความร้อน
-มีผิวสัมผัสที่รู้สึกดีกว่าหนังเทียม
-ดูหรูหรา รองมาจากหนังแท้
-มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมสูง หากมีการดูแลอย่าถูกวิธี
ข้อเสีย
-การรักษายาก
-เก็บความชื้นได้ดี จึงต้องระวังไม่ให้เปียกชื้นมากเกินไป จะเกิดเชื้อราและกลิ่นอับได้และอาจทำให้เกิดคราบสกปรกบนเบาะ
-เกิดกลิ่นอับได้ง่าย
จะเห็นได้ว่าเบาะแต่ละประเภทจะมีทั้งข้อและข้อเสีย ดังนั้นจึงต้องมีการอย่างถูกวิธีค่ะ
สำหรับการดูแลรักษาไม่ ว่าจะเป็นหนังแท้หรือหนังเทียม ควรหลีกเลี่ยงจากแดดร้อน ๆ เพราะจะทำให้เบาะเสื่อมสภาพได้เร็ว เช่นหนังแห้งด้าน แตกลายงา ผิวร่อน โดยหนังแท้จะแพ้แสงแดดและความร้อนได้ง่ายกว่าหนังเทียม หากจำเป็นต้องจอดรถตากแดดนาน ๆให้ผ้าบาง ๆ มาคลุมกันแดดไว้ จะดีที่สุด ผ้าหนา ๆ จะอบความร้อนเกินไป ระวังความชื้นกับเบาะหนังแท้ เนื่องจากหนังแท้มีธรรมชาติคล้ายกับหนังคน ทำให้มันเก็บความชื้นได้ดีด้วย จึงต้องระวังไม่ให้เปียกชื้นมากเกินไป จะเกิดเชื้อราและกลิ่นอับได้ ถ้าเป็นเบาะกำมะหยี่,เบาะผ้า จะดูและรักษายาก เพราะสามารถเก็บสิ่งสกปรก ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะของเหลวที่สามารถไหลซึมเข้าสู่เนื้อผ้าทำให้เกิดรอยด่าง รวมทั้งคราบไขมัน ฝุ่นละออง  ทำให้เกิดกลิ่นอับซื้นได้เช่นกัน ในกรณีที่เพิ่งซื้อรถมาใหม่หรือเปลี่ยนเบาะใหม่ สามารถเคลือบเบาะก่อนเพื่อไม่ให้อมน้ำได้ง่าย และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกน้ำบ่อย ส่วนรถที่ผ่านการใช้งานมาซักระยะต้องทำการฟอกเบาะ เพื่อทำความสะอาดก่อนค่ะ จึงค่อยทำการเคลือบเบาะซึ่ง น้ำยาเคลือบเบาะ มีอยู่หลากหลายแบบด้วยกัน ควรเลือกแบบที่ทำให้เบาะมีความชุ่มชื้น และคุณสมบัติในการปกป้องเบาะรถยนต์ หลังการจากเคลือบเบาะผ้า ช่วยทำให้ฝุ่นเกาะที่เบาะได้ยากขึ้น รวมถึงน้ำก็ซึมยากขึ้น และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นเบาะหนัง หลังการเคลือบเบาะ  จะสามารถป้องกันไม่ให้เบาะแตกลายงา และหนังมีความนุ่มนวลขึ้น....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น